สรุปความว่า

> รัฐบาล เดินหน้าแจกสิทธิการใช้เงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิตอลวอเล็ท แน่นอน

> นโยบายนี้ ไม่ใช่ นโยบายสวัสดิการ แต่ คือ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

> แต่ปรับเงื่อนไง ตามความเห็นของนักวิชาการ นักเศรษฐศาตร์ รวมถึง ธนาคารแห่งประเทศไทย

> ให้คนอายุ 16 ปีขึ้นไป

> มีเงินเดือนเกิน 70,000 บาท หรือ มีเงินฝากทุกบัญชีรวมกัน เกิน 500,000 บาท จะไม่ได้รับสิทธิ

> คนที่ไม่ได้รับสิทธิ จะยังมีส่วนร่วมการใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจได้ โดยรัฐบาลจะมีโครงการ E-Refund ใช้ไปคำนวนลดภาษี ได้ไม่เกิน 50,000 บาท

> สิทธิการใช้เงินนี้ ไม่สามารถเอาไปเทรด แลกเปลี่ยน โอนให้กัน และเอาไปเก็งกำไร ไม่ได้ ไม่ใช่ คลิปโตเคอเรนซี่

> ไม่สามารถซื้อ สินค้าออนไลน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอร์ ยาสูบ กัญชา กระท่อม บัตรกำนัล บัตรเงินสด และ เอาไปซื้อทองคำ เพชรพลอย อัญมณีไม่ได้

> ไม่สามารถเอาไปชำระหนี้ได้ จ่ายค่าเทอม ค่าเรียนไม่ได้

> ไม่สามารถเอาไปจ่าย ค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ หรือเอาไปซื้อนำมันเชื้อเพลิงไม่ได้

> รัฐจะเสนอออกพระราชบัญญัติกู้เงินให้รัฐสภาพิจารณา โดยระบุวัตถุประสงค์ชัดเจนสำหรับโครงการนี้เท่านั้น และ มีระยะเวลาการคืนเงินกู้ 4 ปี

> ขอบเขตการใช้จ่าย ใช้เขต อำเภอตามทะเบียนบ้าน ใช้จ่ายแบบ Face to Face เท่านั้น

> พัฒนาต่อยอดจาก แอ๊ฟเป๋าตังค์ ของธนาคารกรุงไทย แต่จะนำระบบบล๊อคเชนเข้ามาเสริมเพื่อให้สามารถกำหนดเงื่อนไขการใช้สิทธิการใช้เงินได้ มีการตรวจสอบย้อนหลังได้ (หน้าบ้านใช้เป๋าตังค์ หลังบ้านจะเอาบล๊อกเชนมากำกับ)

> เริ่มโครงการ เดือนพฤษภาคม 2567 และ การใช้จ่าย “ครั้งแรก” ให้ใช้จ่ายภายใน 6 เดือน (พฤษจิกายน 2567 ) และจากนั้นเงินที่เข้าสู่ระบแล้วจะใช้ได้และหมุนเวียนในระบบได้ถึง เมษายน 2570