charmingvampireในชีวิตบางช่วง มีความเหนื่อยล้าที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยเหตุผล มีความเงียบที่ดังกว่าคำพูดใดๆ และมีบางคืน ที่แม้ร่างกายจะเหนื่อยล้าเพียงใด แต่ใจก็ยังไม่สามารถหลับตาได้สนิท
บางทีอาจเป็นวันนี้ที่เรารู้สึกเช่นนั้น บางทีเราอาจไม่เข้าใจว่าเหตุใด ทั้งที่มีทุกอย่างพร้อม แต่ใจกลับรู้สึกว่างเปล่า, เหตุใดในท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่กลับมีบางช่วงที่เรารู้สึกว่าไม่มีใครเข้าใจเราเลยสักคน
หากสิ่งนี้มาถึงเราในเวลาเช่นนี้ ขอให้หยุดทุกอย่างลงชั่วขณะ และรับฟังด้วยใจที่เงียบสงัด ไม่ต้องรีบตอบ ไม่ต้องรีบเข้าใจ เพราะสิ่งที่เรากำลังจะได้ยิน ไม่ใช่บทเทศน์จากตำรา แต่คือเสียงแห่งความเมตตา
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้ยินเสียงนี้ในเวลานี้ ถ้าหากวันนี้เราได้ยิน แปลว่า จักรวาลกำลังจะวางบทเรียนให้เราฟังอย่างเงียบงัน และพระพุทธเจ้ากำลังเฝ้ามองอยู่ในความนิ่งสงบ
ในโลกที่เคลื่อนด้วยความเร่งรีบ คนจำนวนมากยินดีที่จะลงทุนเพื่อให้ได้สิ่งใดสิ่งนึงกลับคืนมา แต่มีเพียงไม่กี่คน ที่ยอมวางมือจากสิ่งทั้งหมด เพื่อฟังเสียงของจิตตนเอง และหากเราคือหนึ่งในไม่กี่คนนี้ แปลว่าบางอย่างในตัวเราได้ตื่นแล้ว บางอย่างกำลังตระหนักว่า ความเหนื่อยล้าไม่ได้เป็นศัตรู หากแต่คือสัญญานเตือนจาก จิตเดิมแท้ ว่า เราได้ห่างจากความสงบไปไกลเกิน ไม่มีใครต้องแข็งแกร่งตลอดเวลา ไม่มีใครจำเป็นต้องเป็นคนที่เก่งที่สุดในทุกช่วงของชีวิต
บางทีสิ่งที่ท่านต้องการ ไม่ใช่คำแนะนำ ไม่ใช่ความสำเร็จ ไม่ใช่คำปลอบใจ แต่เป็นเพียง การได้พักอย่างแท้จริง
13h
11hMsp BabyL เข้าใจตัวเองถือว่าดีที่สุดค่ะ; มาถึงจุดที่มีทุกอย่างแล้ว อาจจะลองนั่งทบทวนเป้าหมายชีวิต พอได้ข้อสรุปกับตัวเอง แนวทางที่ชัดเจน จะช่วยลดความฟุ้งซ่านที่เกิดขึ้นได้ค่ะ เห็นด้วยค่ะไม่ต้องแข็งแกร่งตลอดเวลาแล้วก็ไม่ต้องเก่งที่สุด เป็นโพสต์ที่ดี 👍
10h