หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
Gublue
Chan'm blue
Jan 7
ความ(เหงา)ของปัจจุบัน
ลมเอื่อยๆแทรกตัวผ่านช่องหน้าต่างสัมผัสได้ถึงความเย็นวันนี้อากาศไม่หนาวมากกำลังดีเย็นสบาย แสงและเงาของกิ่งก้าน ใบของตนแก้วกำลังไล่เรียงเฉดสีตามท่วงทำนองของสายลมราวกับกับเต้นระบำ กลิ่นบุหรี่ไหม้ยังคงผ่านปลายจมูกอยู่ทุกวัน และวันนี้ก็เช่นกันผมนึกในใจอยู่ว่าเมื่อไหร่จะเลิกสูบได้ซักที เก้าอี้ถูกดึงเข้าไปใกล้โต๊ะอีกนิดเพื่อที่หลังจะได้พิงบรรเทาอาการปวดหลัง ผมนั่งขัดสมาดบนเก้าอี้อีกครั้งเพราะความเคยชินที่ไม่อยากแตะพื้นเย็นๆ เสียงข้างบ้านคุยโทรศัพท์ดังมาถึงโต๊ะที่ผมนั่งพร้อมกับสียงเด็กน้อยลูกสาวของเธอ
หลายต่อหลายครั้งในช่วง3–4วันที่ผ่านมาโปรแกรม word ถูกเปิดและปิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมพยามที่จะเขียนแต่ไม่อาจต้านทานความขี้เกียจละอาการต่างที่กำเริบเป็นว่าเล่น หนึ่งในนั้นเป็นอาการของจิตเภทซึ่งทำให้ผมกลัวไปหมดไม่ว่าจะทำอะไรหรือมีเหตุการณ์ไหนเกิดขึ้นล้วนถูกเชื่อมโยงไปทางสิ่งลี้ลับความเชื่อภูตผี ปีศาจ องค์เทพ ผมเลิกคิดว่าตัวเองเป็นร่างทรงหลังจากได้รับการรักษามาได้ระยะนึงซึ่งก่อนหน้านั่นผมคิดว่าตัวเองเป็นร่างทรงที่ไม่ยอมรับขันธ์เป็นเหตุให้ตัวเองเจ็บป่วยต่างๆนานา พอผมได้มารู้ว่าว่ามันเป็นอาการหลงผิดของโรคจิตเภทถึงเข้าใจตัวเอง
เวลามีความคิดหรืออาการที่อธิบายไม่ได้ผมจะโยนให้เป็นอารการของโรคในทันทีก่อนที่จะมีความคิดปรุงแต่งอย่างที่เคยผ่านมา หากแต่ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเป็นอาการกลัวบาป ผมจะรู้สึกผิดและคิดไปเองว่ากำลังถูกลงโทษด้วยผลจากบาปนั้นทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรที่ผิดมากมายนัก มีเพียงแค่คิดจะทำบาปหรือผิดศีลเท่านั้นความกลัวผลของบาปกับส่งผลรุนแรงจนไม่สามารถทำอะไรได้เลย ถึงนั่นจะเป็นเรื่องดีแต่ทุกอย่างควรแขวนอยู่บนตราชั่งที่เสมอกัน ความกลัวที่มากเกินจนไม่เป็นอันทำอะไรก็ดูจะเกินไป ซี่งแต่ก่อนผมไม่เคยคิดถึงผลที่จะตามมาเลยแม้แต่น้อย
ที่ผมต้องการตอนนี้คือ ความพอดี ปล่อยวาง และอยู่กับปัจจุบันขณะให้ได้มากที่สุด ผมนึกถึงนิทานเซนที่เคยนำมาเขียนในบันทึกกล่าวถึงพระ2รูปที่เดินทางมาเจอแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวกับผู้หญิงหนึ่งคนทั้งสามต้องการข้ามแม่น้ำ พระรูปนึงได้อาสาอุ้มหญิงสาว และทั้ง3ก็ขามแม่น้ำไปพอถึงฝั่งก็แยกทางหากแต่พระอีกรูปตะขิดตะขวงใจไม่กล้าถามถึงความสมควรที่พระอีกรูปอุ้มหญิงสาวซึ่งไม่สมควรสำหรับพระ ได้แต่เก็บไว้ในใจครุกรุ่นจนมาถึงวัดอดใจไม่ได้ถึงจึงถามพระรูปนั้น พระรูปนั้นจึงตอบว่า “เราวางหญิงสาวไว้ที่ฝั่งแล้วใยท่านจึงอุ้มนางมาถึงที่นี่”
ผมเองก็เคยมีประสบการณ์คล้ายกันนี้ตอนที่บวชเป็นพระ มีครอบครัวนึงมาเที่ยววัดแน่นอนว่าหมาวัดย่อมมีอยู่เต็มวัด ขณะที่พ่อแม่กำลังถกเถียงอะไรกันอยู่จนลืมดูลูกตัวเอง ทันใดนั้นผมรู้ตัวอีกที่ปลายนิ้วผมถูกกำไว้แน่น ลูกสาวของคนทั้งสองกลัวหมาวัดที่กำลังเห่า ผมจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลยพาเด็กไปหาพ่อแม่ ในใจนึงก็คิดว่าผิดศีลหนักเลยนะนั่น แต่ใจนึงก็คิดว่าถ้าเห็นแล้วไม่ช่วยก็ผิดศีลเหมือนกัน และเด็กอาจถูกหมากัดได้ ผมย้อนนึกเหตุการณ์เหล่านั้น บางทีไม่ว่าเราจะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตามที่ทำไปไม่ว่าถูกหรือผิดเมื่อทำเสร็จแล้วมันก็จบแล้วอย่าได้แบกมันเอาไว้
ความพอดีในสิ่งที่ทำอะไรที่เป็นเราย่อมไม่แปลกที่จะมีทั้งเรื่องถูก และเรื่องผิดคนเราไม่ได้สมบูรณ์แบบกันทุกคนจักต้องมีเรื่องผิดพลาดกันไม่มากก็น้อย สิ่งที่ทำได้คือปล่อยวางเหตุการณ์นั้นๆลงเสีย แล้วอยู่กับปัจจุบัน กว่าผมจะคิดได้ว่าอาการที่เป็นอยู่อาจจะเป็น ความละอาย ความกลัวต่อผลของบาปที่ออกจะมากเกินความพอดี การยึดมั่นว่าเป็นเรา คิดว่าเราทำผิดและโอบกอดความผิดนั้นไว้กับกับตัวตลอดเวลาจนกลายเป็นความทุกข์ โดยทอดทิ้งปัจจุบันขณะที่เป็นคิดถึงแต่อดีตที่ยึดมั่นถือมั่นเอาไว้ปล่อยให้ปัจจุบันต้องเหงา
“เพราะไม่มีใครอยู่กับปัจจุบัน”
ขอบคุณที่อ่าน
1Y